Modern Oriental Style...อบอุ่น ผ่อนคลาย

ขอขอบคุณ เจ้าของบ้าน: คุณเชน - ศุภวัฒน์ วัฒนธาดา

เพราะคิดว่าคงจะดีไม่น้อยถ้าได้ตื่นสายอีกสักชั่วโมง และไม่ต้องเคร่งเครียดกับการขับรถในชั่วโมงเร่งรีบ เพื่อที่จะไปถึงที่ทำงานให้ทันเวลา แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทางอีกต่างหาก










ด้วยเหตุผลนี้ ท่านเจ้าของบ้าน คุณเชน - ศุภวัฒน์ วัฒนธาดา เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องประดับจากทองคำ จึงตัดสินใจซื้อบ้านเดี่ยว 2 หลังนี้ แล้วทุบกำแพงกั้นระหว่างกันออกเพื่อเชื่อมเป็นบริเวณเดียวกัน โดยตกแ่ต่งหลังหนึ่งให้เป็นที่อยู่อาศัย และอีกหลังหนึ่งเป็นสำนักงานและโชว์รูมสินค้าในตัว เขาให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า

"ผมเป็นคนชอบสะสมของเก่า จะชอบซื้อทุกครั้งเมื่อเห็นของแปลกๆ เวลาเดินทางไปต่างประเทศ เพราะคิดว่าของตกแต่งที่เป็นของสะสมของเราเอง ช่วยทำให้บ้านดูมีเอกลักษณ์ สะท้อนบุคลิกของเจ้าของบ้านได้อีกอย่างหนึ่ง"

คุณเชนกล่าวพร้อมพาเราเดินชมบ้านที่ตกแต่งด้วยการเน้นวัสดุประเภทไม้ "บ้านหลังนี้ตกแต่งภายในให้เป็นสไตล์โอเรียนทอล (Oriental) ผสมโมเดิร์นนิดนึง โดยส่วนตัวเป็นคนชอบสะสมวัตถุโบราณ ดังนั้นการใช้วัสดุประเภทไม้ในการตกแต่งจึงเหมาะที่สุด"


นอกจากนั้น เขายังเล่าให้ฟังว่า ด้วยคุณสมบัติของไม้จะช่วยสร้างความผ่อนคลาย เช่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทำจากไม้ จะให้ความรู้สึกเย็นสบายในการพักผ่อนมากกว่าวัสดุอื่น ที่สำคัญควรเลือกโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้และพื้น ให้เหมาะกับของตกแต่งอื่นๆ เพื่อความผสมกลมกลืนของดีไซน์


"หลักในการออกแบบและตกแต่งบ้านหลังนี้ ผมเลือกที่จะผสมผสานไม้หลายประเภทและหลายดีไซน์เข้าด้วยกัน เน้นอารมณ์ห้องให้ผ่อนคลาย โดยเลือกใช้สีที่กลมกลืนกัน เช่น โต๊ะไม้สีเข้ม มู่ลี่ก็ควรเป็นสีที่อ่อนกว่า นิยมใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เช่น สีน้ำตาลเข้ม และสร้างสีสันลูกเล่นอื่นๆ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เช่น โซฟาหรือหมอนอิง มาเติมความสดใส"

ลักษณะการตกแต่ง
ชั้นล่างแบ่งโซนอย่างเป็นระเบียบ แบ่งเป็นห้องโถงสำหรับรับแขกเปิดโล่งถึงชั้นสอง เจ้าของบ้านเลือกใช้ไม้มะค่าแผ่นใหญ่กว่าปรกติในการปูพื้นชั้นสองที่เป็นบริเวณห้องนอน ส่วนบริเวณขอบประตูทุกบานและช่องทางเดิน จะใช้วัสดุไม้มาตีเป็นคิ้วบัววิ่งรอบด้าน เพื่อให้ดูมีรายละเอียดและสวยงามมากขึ้น ส่วนสีทาไม้ที่ใช้ในการตกแต่งภายในทั้งหมด จะใช้เป็นสีโอ๊คเ้ข้มเพื่อให้การตกแต่งดูหรูหราขึ้น ...แค่เลือกไม้มาเป็นวัสดุหลักในการตกแต่งบ้าน ก็ช่วยทำให้บ้านดูอบอุ่นผ่อนคลาย แถมยังช่วยสะท้อนความเป็นตัวคุณได้อีกทางหนึ่ง

The Property
การตกแต่งสไตล์โอเรียนทอลโมเดิร์น ที่ผสมผสานระหว่างความใหม่กับความทรงจำในอดีต จะเน้นใช้วัสดุประเภทไม้ แล้วทำสีน้ำตาลหรือโอ๊คเข้ม บางท่านอาจใช้ไม้สักแล้วทำสี แต่ถ้าบางท่านทุนน้อยหน่อย อย่างพวกพื้นไม้ใช้เป็นไม้ลามิเนททำสีโอ๊คสำเร็จเลยก็ได้นะครับ (ราคาประมาณ 500-800 บาท/ตารางเมตร รวมค่าแรงติดตั้ง) สนใจติดต่อ บัวสยาม โฮมเซ็นเตอร์ ศูนย์รวมพื้นไม้ครบวงจร 0-2449-0333




Modern Contemporary Design for Heart & Soul

ขอขอบคุณ เจ้าของบ้าน: คุณรุจิรา เหล่าตระกูลรักษ์ (เจ้าของกิจการ บริษัท สีทองทวีปเคมิคอล จำกัด)
The Property: ขนาดที่ดิน 122 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร
ราคาบ้านพร้อมที่ดิน: 8,000,000 บาท
งบประมาณออกแบบและตกแต่งภายใน: 1,100,000 บาท
ตกแต่งและออกแบบภายใน: บริษัท เอกศิริเดคคอร์เรชั่น จำกัด 0-2865-4611-2

โมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ (Modern Contemporary) เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่เราได้ยินบ่อยครั้ง โดยเน้นหลักการผสมผสานเพื่อให้บ้านออกมาดูมีชีวิตชีวาและทันสมัย ครั้งนี้ able ถือโอกาสนำบ้านโมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ย่านตลิ่งชันมาให้ผู้อ่านได้ชมกัน

คุณรุจิรา เหล่าตระกูลรักษ์ เจ้าของบ้าน พาเราชมบ้านพร้อมเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการเลือกที่อยู่อาศัย รวมทั้งการออกแบบและตกแต่งบ้านหลังนี้


















"ปัจจัยแรกในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยของเรา คือ ทำเลที่ตั้ง บ้านหลังนี้อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่และยังใกล้สวนพุทธมณฑล ที่ครอบครัวเราสามารถใช้เป็นสถานที่พักผ่อนและออกกำลังกาย แถมยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจย้ายที่อยู่อาศัย จากเดิมอยู่อาคารพาณิชย์ คือ สมาชิกวัยกำลังน่ารัก ทั้ง 3 คน ซึ่งเราอยากให้มีสนามหญ้ากว้างๆ ให้ลูกๆ วิ่งเล่น และต้องการอากาศบริสุทธิ์ที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก"

การตกแต่งภายในให้บ้านออกมาน่าอยู่นั้น เจ้าของบ้านผ่านการคิดอย่างรอบคอบ และหาที่ปรึกษาด้านการตกแต่งภายในที่มีประสบการณ์ และมีความชำนาญ

"ดิฉันต้องการเน้นเฟอร์นิเจอร์โทนสีขาว เพื่อให้ดููโปร่ง โล่งและต้องมีที่เก็บของเยอะๆ เพราะเป็นคนชอบอ่านนิตยสารตกแต่งบ้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ชอบแบบไหนก็จะซื้อเก็บไว้ จากนั้นจึงคุยกับผู้ออกแบบว่าต้องการแนวนี้ ทำให้บ้านหลังนี้ออกมาได้อย่างที่ใจต้องการ"









บ้านหลังนี้มีการต่อเติมจากเดิม เพื่อจะได้มีฟังค์ชั่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโซนนั่งเล่น ห้องครัวและห้องแม่บ้าน ซึ่งใช้เวลาในการตกแต่งภายในประมาณ 5 เดือน โดยใช้บริการของบริษัท เอกศิริเดคคอร์เรชั่น จำกัด

"ดิฉันชอบห้องนั่งเล่นมากที่สุด เพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และยังเป็นสถานที่ที่คนในบ้านอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า แถมยังสามารถมองเห็นสวนจากห้องนี้ด้วย"









ก่อนจากกัน คุณรุจิรายังฝากข้อคิดและแนะนำถึงท่านที่กำลังคิดจะสร้างบ้านในฝันว่า "งานก่อสร้างมีตัวแปรและรายละเอียดเยอะ ควรเลือกช่างที่มีคุณภาพและซื่อสัตย์ เวลาจะตัดสินใจซื้อบ้านต้องคิดถึงรายละเอียดต่างๆ ให้เยอะ ต้องดูว่าพื้นที่ใช้สอยในบ้านสามารถตอบโจทย์ของทุกคนในครอบครัวได้มากน้อยแค่ไหน และต้องใช้เวลาในการตัดสินใจให้รอบคอบ"

แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้บ้านสักหลังที่ถูกใจ แต่ความมุ่งมั่นอดทน มักจะให้ผลที่หอมหวานเสมอ


Tropical Modern Home in Resort Style

ขอขอบคุณ เจ้าของบ้าน: คุณเชาวลิต ตรีเพชรสมคุณ
ผู้ให้สัมภาษณ์: คุณปาวีณ ตรีเพชรสมคุณ
The Property: ขนาดที่ดินรวม 3 ไร่ พื้นที่ใช้สอย 500 ตารางเมตร ส่วนที่ใช้จัดสวนประมาณ 1 ไร่ครึ่ง

หลังจากที่เราได้สังเกตบ้านหลังนี้ตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง เนื่องจากเป็นทางผ่านระหว่างที่พักกับที่ทำงาน ทำให้เราได้เห็นการพัฒนาปรับปรุงของบ้านหลังนี้แทบทุกวัน และก็คิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่า จะต้องขอไปแวะชมบ้านหลังนี้ให้ได้ และในที่สุดโอกาสนั้นก็มาถึง เมื่อ คุณปาวีณ ตรีเพชรสมคุณ (ลูกชายคนเล็ก) ซึ่งมีอาชีพเป็น Project Designer เปิดบ้านให้เราเข้าไปชม และพร้อมให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง

"เดิมที่บ้านเก่าอยู่แถวซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 ลักษณะเป็นแบบตึกแถว ซึ่งแถวนั้นค่อนข้างแออัดและจอแจ และทางครอบครัวก็เห็นว่าลูกๆ เริ่มโตกันมากแล้ว จึงถึงเวลาในการขยับขยายสักที โดยเลือกทำเลใหม่นี้เนื่องจากคุณพ่อได้ซื้อไว้ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว รวมถึงบรรยากาศที่ดีและการคมนาคมค่อนข้างสะดวก"

สิ่งที่ทำให้เราชื่นชอบบ้านหลังนี้ น่าจะเป็นแบบบ้านที่แปลกและไม่ซ้ำแบบใคร ซึ่งหาดูได้ยากในกรุงเทพฯ สมัยนี้ ที่ผู้คนมักชอบอยู่บ้านแบบเดียวกันในโครงการหมู่บ้านจัดสรร


















"บ้านหลังนี้ผมต้องการให้ออกมาเป็นสไตล์ทรอปิคอลโมเดิร์น โดยใส่อารมณ์การตกแต่งแนวรีสอร์ทเข้าไป เพื่อทำให้บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ วัสดุส่วนมากจะเน้นประเภทไม้โดยส่วนใหญ่ เนื่องจากทางคุณพ่อและคุณแม่ชอบไม้มาก และมีแหล่งวัตถุดิบที่สามารถซื้อมาในราคาที่เป็นกันเอง จึงนำมาใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านเป็นหลัก" คุณปาวีณอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบ พร้อมพาเราเดินชมภายในบ้าน

"บ้านหลังนี้จะเรียกว่าบ้านประหยัดพลังงานก็ว่าได้ เพราะขนาดไม่เปิดเครื่องปรับอากาศก็อยู่ได้ ยังรู้สึกเย็นสบาย เพราะมีทางให้ลมพัดผ่านเยอะมาก อย่างช่องบันไดขึ้นบ้านชั้นบน เราก็ใช้เป็นกระจกนิรภัยแผ่นใหญ่เป็นช่องแสงแทนการปิดทึบ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลยทีเดียว"

เรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ละเลย คือ เรื่องทิศ โดยยึดหลักฮวงจุ้ย ออกแบบให้มีลมถ่ายเทพัดผ่านเข้าบ้าน ส่วนเรื่องบานประตู เจ้าของบ้านจะพยายามหลีกเลี่ยงทิศตะวันตกกับทิศตะวันออกให้มากที่สุด โดยจะหันทางทิศเหนือเป็นหลัก

"ผมชอบส่วนพื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้านมากที่สุด เพราะเป็นที่ๆ ลมพัดเย็นสบาย เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ และสามารถมองเห็นบรรยากาศหน้าบ้านได้โดยรวม"

หลังจากที่เราได้พูดคุยกับทางคุณปาวีณพร้อมเดินดูภายในบ้านหลังนี้ เราก็ได้รู้สึกว่าทางเจ้าของบ้านค่อนข้างใ่ส่ใจในการออกแบบและก่อสร้างในทุกๆ รายละเอียดทีเดียว โดยใช้ระยะเวลาการออกแบบ 4 เดือน ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี และปิดท้ายด้วยการตกแต่งภายในอีก 1 ปี จึงออกมาเป็นบ้านหลังนี้ และก่อนจากกัน ทางคุณปาวีณยังฝากข้อคิดถึงผู้ที่กำลังจะสร้างบ้านของตัวเองไว้ด้วยว่า

"ต้องคิดให้มาก เขียนความต้องการให้ชัดเจนทั้งปัจจุบันและอนาคต เวลาสร้างบ้านให้จินตนาการการใช้ชีวิตประจำวันของเราหลังมีบ้าน และให้ศึกษาพวกศิลปะผสมผสานกับหลักวิทยาศาสตร์ในการออกแบบบ้าน แล้วบ้านเราจะไม่เหมือนใคร และตรงตามความต้องการ"



Renovate Townhome for City Living

ขอขอบคุณ เจ้าของบ้าน: คุณพจนกร ทองไทย
ทำเลที่ตั้ง: สาทร-สาธุประดิษฐ์
The Property: Townhome 4 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร ขนาด 27 ตารางวา
พื้นที่ใช้สอย : 350 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้านพร้อมครัวไทย

ที่พักอาศัยหรือบ้านที่ดี จะต้องมีบรรยากาศเชิญชวนให้พักผ่อน ตกแต่งอย่างมีสไตล์ และสามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของบ้านได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในการตกแต่งบ้านไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเลือกตกแต่งรูปแบบไหน แต่ควรเป็นการค้นหาสไตล์ของตัวคุณเองก่อน เพราะบ้านคือพื้นที่ในการสร้างสรรค์ และสะท้อนให้เห็นความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มเปี่ยม



















able showcase ฉบับนี้ ได้รับคำเชิญจากเจ้าของบ้าน คุณพจนกร ทองไทย ที่ลางานช่วงบ่ายมาเปิดบ้านให้เราได้ดูกัน

"ผมซื้อทาวน์เฮ้าส์หลังนี้มาได้หลายปีแล้ว แต่กว่าจะได้อยู่จริงๆ ใช้เวลานานมาก เพราะหมดไปกับการออกแบบและงานตกแต่งภายใน ตอนที่ซื้อมาผมต้องตอบโจทย์หลายข้อ เช่น จะต่อเติมเพิ่มไหม หรือไม่ก็จะให้แม่บ้านอยู่ส่วนไหนดี เนื่องจากที่พักอาศัยเป็นลักษณะทาวน์เฮ้าส์ ไม่ใช่บ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ"










จากการสังเกตดูบ้านข้างเคียง เห็นได้ชัดว่าบ้านหลังนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ เริ่มจากบริเวณทางเข้าบ้าน ที่เปลี่ยนจากประตูบานเดี่ยวเป็นประตูบานคู่ และใช้เทคนิคการพ่นทรายที่บริเวณผนังให้บริเวณหน้าบ้านดูมีลูกเล่นขึ้น

"เดิมทีชั้นล่างเป็นครัวขนาดใหญ่ ผมตัดสินใจดัดแปลงให้เป็นส่วนเพิ่มเติมซึ่งรวมห้องนอนแม่บ้าน ห้องเก็บของ ห้องซักรีดและบริเวณลานซักล้างเข้าด้วยกัน ทำให้การอยู่อาศัยในทาวน์เฮ้าส์ลงตัวมากขึ้น เพื่อนบ้านของผมให้แม่บ้านไปพักอยู่ชั้นบนสุด ซึ่งในความรู้สึกผมรู้สึกว่าไม่มีความเป็นส่วนตัว"

้านหลังนี้ตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่าย เน้นไปทางโมเดิร์น โดยใช้วัสดุประเภทกระจกและสแตนเลส ซึ่งสังเกตได้จากงานบันได และงานตกแต่งผนังด้วยกระจกสีตรงบริเวณห้องโถงนั่งเล่นชั้น 2 ที่เพดานทำไว้สูงมาก

"ผมชอบงานตกแต่งสไตล์โมเดิร์นที่เน้นโทนสีสว่างก็จริง แต่ถ้ามากไปก็ดูขาดความอบอุ่น ผมจึงเลือกที่จะผสมกับงานไม้ เพื่อทำให้ดูไม่แข็งจนเกินไปและน่าอยู่มากขึ้น ส่วนห้องนอนก็ขนาดพอดีๆ ไม่เล็กและไม่ใหญ่ไป เพราะส่วนมากผมจะอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเสียส่วนใหญ่"

ไม่ว่าที่พักอาศัยของคุณจะเป็นลักษณะไหน จะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดหรือทาวน์เฮ้าส์ ถ้าคุณรู้จักคำนึงถึงการใช้สอยในชีวิตจริงๆ ของตัวคุณ บวกกับสไตล์การตกแต่งที่คุณชอบ ที่สุดบ้านที่น่าอยู่และอบอุ่นก็เป็นของคุณ



Inspired Masterpiece of Living

ขอขอบคุณ เจ้าของบ้าน: คุณณรงค์ กริชชาญชัย
ที่ดิน: 230 ตารางวา
พื้นที่บ้าน: 813 ตารางเมตร Living Room เพดานสูง 4 เมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถ 3 คัน
โครงการหมู่บ้าน: นิชาตา พุทธมณฑล สาย 2
โทร: 0-2448-1766

ลองจินตนาการว่า หากได้อยู่ในบ้านที่สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด แล้วทิ้งภาพความแออัดของตัวเมืองที่แสนจะน่าเบื่อออกไป...คาดว่าคงเป็นความฝันอันแสนอภิรมย์ ที่ใครๆ ต่างก็ปรารถนา










เช่นเดียวกับ คุณณรงค์ กริชชาญชัย เจ้าของบ้านหลังนี้ ซึ่งมีดีกรีมหาบัณฑิตด้านกฎหมายจาก Cornell University มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอเมริกา ที่เป็นคนเลือกทำเลย่านพุทธมณฑล สาย 2 นี้เป็นที่พักกายพักใจ

คุณณรงค์ เล่าความเป็นมาให้ฟังว่่า "ชอบทำเลแถวนี้มานานแล้ว เพราะเป็นทำเลพื้นที่เขียวลาย ซึ่งห้ามสร้างโรงงานตึกสูงเกิน 4 ชั้น และยังบังคับให้บ้านในโครงการจัดสรรมีขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ผมจึงมั่นใจได้ว่าทำเลแห่งนี้ในอนาคตก็จะไม่แออัด และมีมลพิษน้อยที่สุดแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ"










เจ้าของบ้านผู้ชื่นชอบการตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น เริ่มพาพวกเราเข้าสู่ตัวบ้าน ที่ใครเห็นคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าอยู่จัง "สถาปนิกของบ้านหลังนี้ ตอบโจทย์ของการออกแบบจากไอเดียของผมได้เป็นอย่างดี โดยตอบสนองแนวคิดที่ให้ความสำคัญ และใส่ใจในรายละเอียดของบ้าน ที่ต้องให้ทั้งความหรูหรา ทันสมัย มีความเป็นส่วนตัว และต้องไม่ลืมเรื่องความปลอดโปร่ง สงบ ร่มรื่นด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เรายังพิถีพิถันในการวางตำแหน่งของบ้านให้ถูกต้อง ตามหลักชัยภูมิศาสตร์อภิมหาเศรษฐีแบบจตุรมาศ อันถือเป็นหลักการสร้างบ้านที่มีความเป็นสิริมงคล เสริมบารมีและความร่ำรวยของผู้อยู่อาศัย"










ด้วยความงดงามของดีไซน์ และมาตรฐานของวัสดุก่อสร้างที่เลือกสรรสุดพิถีพิถัน บ้านหลังนี้จึงเป็นรางวัลชีวิตที่สะท้อนตัวตนและวิสัยทัศน์ของเจ้าของบ้านได้อย่างดีที่สุด


สายัณห์สวัสดิ์ ณ Arun Residence

ที่อยู่: 36-38 ซอยประตูนกยูง ถนนมหาราช ท่าเตียน กรุงเทพฯ
โทร: 0-2221-9158
www.arunresidence.com

"พระจันทร์ตกน้ำ ที่ไหนจะสวยเท่าที่เจ้าพระยา" อย่างที่เราเคยได้ยินมา แต่จะมีสักกี่คน...ที่เคยเห็นช่วงอาทิตย์อัสดงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในบริเวณที่มองเห็นพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามด้วย แต่สำหรับที่นี่ Arun Residence คุณจะสามารถมองเห็นความงดงามเกินคำบรรยายอย่างนี้ได้อย่างชัดเจน
ที่นี่แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ได้แก่ โฮมสเตย์เก๋ไก๋ที่มีห้องพักให้บริการ หรือ Arun Residence ห้องอาหารริมน้ำ The Deck ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักชิม และน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้บริการ ได้แก่ Amorosa เป็นบาร์สไตล์ Hang Out รอต้อนรับลูกค้าที่ต้องการมากินลมชมวิวของแท้ อยู่บนชั้น 4 ของห้องอาหาร The Deck
Arun Residence เป็นการ renovate ตึกแถวย่านท่าเตียนให้กลายเป็นโฮมสเตย์ โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อมดั้งเดิมของชุมชนโบราณละแวกนั้น ตกแต่งเป็นบูติคโฮเต็ลที่แฝงความเป็นไทยไว้อย่างน่ารักลงตัว


















แพทย์หญิงปิยะนุช รักพาณิชย์
แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูหัวใจ สถาบันหัวใจเพอร์เฟคฮาร์ท และเจ้าของ Arun Residence ได้เล่าความเป็นมาเป็นไปว่า "แต่ไหนแต่ไรมา คนไทยก็จะผูกพันอยู่กับสายน้ำ เราจึงอยากแบ่งปันให้ชาวต่างชาติหรือแม้แต่กระทั่งคนไทยเองก็ตาม ได้มีโอกาสตักตวงความสุขกับความงามตามวิถีไทย ทั้งศิลปะ ธรรมชาติ อาหารและขนบธรรมเนียมไทย ริมแม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชาวไทยมานาน
"ที่นี่มีเพียง 7 ห้อง แต่ละห้องจะมีความแตกต่าง ทั้งพื้นที่ การตกแต่งและจุดเด่นของแต่ละห้อง แต่ที่ทุกห้องต้องมีเหมือนกัน คือ บรรยากาศสบายเหมือนอยู่บ้าน มีสีสันความเป็นไทยและต้องมองเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ"
การดูแลสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องของน้ำ-ท้องฟ้า-อากาศ-ต้นไม้ เท่านั้น แต่ศิลปะและวัฒนธรรมที่เป็นเครื่องจรรโลงใจก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม ที่เราควรร่วมกันอนุรักษ์ไว้ให้ดีดังเดิมเช่นกัน

คงไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองมากมายเพื่อเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ถ้าหากเราทุกคนช่วยกันอนุรักษ์เอกลักษณ์ความงามอย่างไทยๆ เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชม

เพราะคนที่ควรจะรู้และเข้าใจดีที่สุด ควรจะเป็น "คนไทย" มิใช่หรือ



American Classic Style










ขอขอบคุณ เจ้าของบ้าน: คุณวันชัย เสริมทอง และ คุณกาญจนากรณ์ พิชิตชัยรุ่ง

ผู้ออกแบบ:
คุณเอก โด่งดังเทิดทูนทวี
รับเหมาตกแต่งภายใน:
บริษัท เอกศิริ เดคคอร์เรชั่น จำกัด 0-2865-4611

สิ่งแรกที่สัมผัสได้ เมื่อย่างเข้าสู่บ้านสไตล์อเมริกันคลาสสิก ขนาด 720 ตารางเมตร สร้างบนเนื้อที่ 180 ตารางวาของคุณวันชัย เสริมทอง คือ ความอบอุ่นและความพิถีพิถันในการตกแต่งเลือกของเข้าบ้าน "การตกแต่งต้องบ่งบอกบุคลิกภาพและอารมณ์ของเจ้าของบ้าน ผมเคยไปบ้านที่นำสมัยแต่ดูเงียบเหงาปราศจากความรู้สึกมาหลายที่ เรียกว่าไม่น่าอยู่เลย ผมจึงตั้งใจตั้งแต่ก่อนสร้างบ้านหลังนี้ว่ามันต้องให้ความรู้สึกที่อบอุ่น สบายและบ่งบอกถึงความเป็นตัวผมมากที่สุด" ท่านเจ้าของบ้านกล่าวพร้อมนำเรามาชมบ้านที่มีสมาชิกในบ้านเพียง4 คน ที่ใช้เวลาก่อสร้างรวมตกแต่งประมาณ 1 ปี กับ 4 เดือน










"ส่วนโถงอาหารนี้ ผมออกแบบให้มันดูโปร่งโดยการเจาะฝ้าเพดานขึ้นไป ทำให้รับแสงสว่างมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหามุมอับของบ้าน รวมทั้งช่วยเสริมให้ส่วนทานอาหารนี้ดูมีลูกเล่นแบบคลาสสิกมากยิ่งขึ้น" คุณวันชัยกล่าวพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มและภูมิใจในผลงานการออกแบบที่ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ










กว่าบ้านหลังนี้จะออกมาสมบูรณ์น่าอยู่ ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ทั้งความสวยงามลงตัวของสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในที่เหมาะสมต่อการใช้สอย รวมถึงการใส่ใจกับรายละเีอียด ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความร่วมมือที่ดีจากทั้งสถาปนิก มัณฑนากร ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่เข้าใจในศาสตร์และศิลป์ของการออกแบบ และนำความต้องการของเจ้าของบ้านมาปรับใช้อย่างลงตัวครับ เหมือนบ้านหลังนี้ที่เจ้าของบ้านเองมีส่วนร่วมในทุกขึ้นตอน เพื่อให้ไำด้รูปแบบที่ตรงใจที่สุด